Key Ingredients

Growth Factor คือสารกลุ่มโปรตีนที่ลอยอยู่ภายในเซลล์ โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวสื่อสาร
ระหว่างเซลล์เพื่อให้เกิดกระบวนการต่าง ๆ (Cell reponse) เช่น กระตุ้นการเติบโต
การรักษา และการอยู่รอดของเซลล์ ซึ่งจะพบได้มากใน Stem cell เนื่องจากเป็นเซลล์
ที่จะถูกกระตุ้น เพื่อสื่อสารและเปลี่ยนแปลงการทำงานที่เฉพาะทางมากขึ้น จะถือได้ว่าตัว
Growth factor เป็นอาหารของเซลล์ก็ว่าได้ ซึ่งจุดประสงค์ของการนำ Growth factor
คือเพื่อแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับผิวหนังได้อย่างล้ำลึก โดย Growth factor แต่ละชนิดมี
บทบาทในการดูแลผิวที่แตกต่างกันออกไปตามปัญหาที่ต้องการแก้ อาธิ เช่น
Transforming Growth Factor Beta (TGF-b) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และหลอดเลือด,
Transforming Growth Factor-Alpha (TGF-a) กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และ
Epidermal Growth Factor (EGF) กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาส และเซลล์ผิว เป็นต้น
โดย Multi Growth Factor ที่เป็นส่วนผสมของ Celliance นี้ได้คัดเลือก Growth factor
ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาริ้วรอย ได้อย่างครอบคลุมทุกปัญหาผิว

Adipocyte growth factor เป็นเซลล์ไขมันในเซลล์ ที่ทำหน้าที่เข้าจับกับตัวรับ (Receptor)
และกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงที่เซลล์นั้น ๆ ซึ่งจะทำงานร่วมกับโกรทฮอร์โมนตัวอื่น ๆ โดยตัว
Adipocyte growth factor จะเกี่ยวข้องกับระบบควบคุมกระบวนการพัฒนาของเซลล์
ไปทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ การแบ่งตัวของเซลล์ (proliferation) ระบบเผาผลาญพลังงานเมดตาลิซึม
และการตายของเซลล์แบบ apoptosis ของผิวหนัง โดยสรรพคุณของ Adipocyte growth factor
ที่ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาเรื่องผิว มีบทบาทเป็นตัวกลางสื่อสารระหว่างการเติมเต็มของรูขุมขน
และการรักษาบาดแผลที่ผิว โดยจะกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้นพบว่ามีบทบาทหลักการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ความแตกต่างของเซลล์ผิว
การเพิ่มจำนวนและการสร้างเม็ดสีเมลานิน การอพยพ ขนส่งสารภายในเซลล์ และการหลั่ง
ของโปรตีนเมทริกซ์ออกสู่นอกเซลล์ ซึ่งทำให้เพิ่มประสิทธิในการออกฤทธิ์ของสารที่ขนส่งได้ไวมากขึ้น
จึงทำให้ผลลัพธ์ในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ การรักษารอยดำ กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่
สามารถเกิดขึ้นได้ไวกว่าปกติ

เปปไทด์ คือกรดอะมิโนสายสั้น ๆ ที่เชื่อมกันด้วยพันธะเอไมด์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหมู่คาร์บอกซิล
ของกรดอะมิโนหนึ่งทำปฏิกิริยากับหมู่อะมิโนของอีกกลุ่มหนึ่ง เปปไทด์มีความแตกต่างจาก
โปรตีนตามขนาด โดยปกติเปปไทด์จะมีกรดอะมิโนน้อยกว่า 50 ชนิด เปปไทด์ที่ออกฤทธิ์
ทางชีวภาพมักประกอบด้วยกรดอะมิโนเพียงสองถึงสิบตัว โดยเปปไทด์ที่ใช้เป็นสารออกฤทธิ์
ในการดูแลผิวมีอยู่ 5 ประเภท ได้แก่ เปปไทด์ส่งสัญญาณ (Signaling peptides)
เปปไทด์พาหะ (Carrier peptides) เปปไทด์ที่ยับยั้งเอนไซม์ (Enzyme-inhibiting peptides)
เปปไทด์ที่ยับยั้งสารสื่อประสาท (Neurotransmitter-inhibiting peptides) และ
เปปไทด์ต้านจุลชีพ (Antimicrobial peptides) โดยหน้าที่ของเปปไทด์เหล่านี้จะสามารถ
เข้าซึมผ่านชั้นผิวหนังของร่างกายได้ และส่งสัญญาณกระตุ้นกระบวนการ ต่าง ๆ เช่น
เพิ่มการฟื้นฟูผิวและเพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว, ลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่,กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับร่องรอยบนผิวหน้า เป็นต้น

PDRN (Polydeoxyribonucleotide) สกัดจากสเปิร์ม DNA ของปลาแซลมอน
ซึ่งถือเป็นสเต็มเซลล์ (Stem cell) โดยจะทำหน้าที่ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ (Tissue repairing)
ต่อต้านการขาดเลือด (Anti-ischemic) ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory)
เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เผยผิวใหม่เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย
ไม่มีผลข้างเคียงเพราะไม่มีสารโปรตีนที่จะทำให้เกิดปฏิกริยาภูมิแพ้ต่อร่างกาย PDRN
PDRN ช่วยกระบวนการเพิ่มจำนวนเซลล์ไมโตคอนเดีย โดยไมโตคอนเดียทำหน้าที่ให้
พลังงานแก่เซลล์ต่าง ๆ ทำให้ส่วนเส้นใยกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น
PDRN ยังมีคุณสมบัติฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสามารถยับยั้งความเครียดจากปฏิกิริยา
ออกซิเดชันระดับเซลล์ในเซลล์ผิวหนังได้ PDRN ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส
โดยตรงซึ่งช่วยลดปริมาณเมลานินในเซลล์ในเมลาโนไซต์ นอกจากนี้ PDRN ยังมีสามารถ
เพิ่มอัตราการเติบโตของเซลล์จำนวนมาก และเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการอักเสบ
การซ่อมแซมผิวที่เสื่อม และการงอกใหม่ของเซลล์